![]() ภาพจาก http://tsaclub.com/edu_guide.php?article_id=54 According to the survey data gathered by National Statistical Office and SE-EDUCATION Public Company Limited, the current situation with regard to Thai people's reading behaviors is not very worrying as we have expected. The data also showed that the ratio of the 2011 reading behaviors to the 1995 ratio significantly increased. One of the challenges faced by reading policy makers today is to sustain 'life-long learning' and 'reading for life' philosophy within the Thai younger generations. ถ้าหากถามว่าพฤติกรรมการอ่านหนังสือของประชากรไทยวิกฤตจนทำให้ผู้วางนโยบายด้านการอ่านในระดับชาติต้องวิตกกังวลหรือไม่ คำตอบคือ "ไม่" ครับ เพราะจากการสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่่งได้นำข้อมูลที่เก็บภาพรวมอัตราการอ่านหนังสือของคนไทย พบว่า ประชากรทั่วประเทศอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน หรือนอกเวลาทำงานมากขึ้นจากเดิมร้อยละ 61.2 ในปี 2546 เพิ่มเป็นร้อยละ 68.8 ในปี 2554 โดยกลุ่มวัยเด็กมีอัตราการอ่านเพิ่มสูงกว่าประชากรกลุ่มอื่น คือ จากเดิมร้อยละ 84.5 ในปี 2546 เพิ่มเป็นร้อยละ 91.2 ในปี 2554 ทั้งนี้ หากพิจารณาข้อมูลประกอบอื่น ซึ่งก็คือ จำนวนรายการหนังสือออกใหม่ในท้องตลาดที่รวบรวมโดย บริษัท ซีเอ็ดยูเคช่ั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่่ปี 2538-2553 พบว่า ยอดการจำหน่ายหนังสือมีทิศทางในเชิงบวกเช่นกัน เพราะรายชื่อหนังสือออกใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิม 5,000 ปก ในปี 2538 เพิ่มเป็น 15,000 ปก ในปี 2553 (อ้างอิงจาก -- "รายงาน: คนไทยอ่านอะไร? บทสำรวจสถานการณ์การอ่านในประเทศไทย" จากเว็บไซต์ V Reform http://v-reform.org/v-report/reading-in-thailand/ 23 สิงหาคม 2555) แน่นอนว่า ข้อมูลทางสถิติที่เก็บโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักพิมพ์/ผู้จัดจำหน่ายหนังสือเพียงรายเดียว อาจไม่สามารถทำให้เราชี้ชัดได้ว่า พฤติกรรมการอ่านของคนไทย "แข่งขัน" ได้กับประเทศที่มียอดนักอ่านจำนวนมากได้ แต่มันก็สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ในบ้านเราก็ไม่ได้วิกฤติอย่างที่เรานึกภาพไว้ ส่วนหนึ่งเพราะการเรียนในระบบได้เพิ่มสัดส่วนของผู้รู้หนังสือให้เพิ่มมากขึ้นๆ ในแต่ละปี กิจกรรมการอ่านในโรงเรียนมีส่วนอย่างยิ่งต่อการบ่มเพาะนิสัยรักการอ่านให้ติดตัวไปเมื่อยามที่ผู้อ่านก้าวข้ามพ้นวัยเรียนเพื่อเข้าสู่ตลาดงาน โดยส่วนตัวของผมแล้ว ความท้าทายอย่างหนึ่งก็คือ จะทำอย่างไรให้นักอ่านที่เราช่วยกันบ่มเพาะมา เติบโตกลายเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต มีนิสัยรักการอ่านทั้งเพื่อการอ่านในชีวิตประจำวัน เพื่อการทำงาน และเพื่อความริ่นรมย์แห่งชีวิต สามารถยกระดับเนื้อหาจากความชอบเพียงอย่างเดียว ไปสู่การอ่านเนื้อหาสำหรับพัฒนาชีวิตในทุกช่วงเวลาและทุกแง่มุมของชีวิต ตัวอย่างเช่น จะทำอย่างไรให้นักอ่านรุ่นเยาว์เลื่อนระดับจากการอ่านการ์ตูนเพื่อความบันเทิง มาเป็นการอ่านการ์ตูนธรรมะสอนใจ แล้วขยับมาอ่านร้อยแก้ว-ร้อยกรอง/บทประพันธ์สอดแทรกคติธรรม จนมาชื่นชอบการอ่านหนังสือธรรมะ/ปรัชญาชีวิต ในที่สุด
0 Comments
|
Archives
December 2015
Categories
All
|