แนวคิดสัญศาสตร์ไซเบอร์ในสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์![]() โดย ซอเรน ไบรเยอร์ วารสารไลบรารี่ไอเดีย ฉบับที่ 4 ปี 2006 ที่มา: http://www.ib.hu-berlin.de/~libreas/libreas_neu/ausgabe4/001bri_b.htm#tec ชาร์ลส แซนเดอร์ส เพียร์ซ ผู้สร้างทฤษฎีสัญศาสตร์ (Semiotics) กล่าวไว้ว่า ความหมายของคำเกิดจากการนำคำนั้นๆ ไปใช้จริงในสังคม (practice of living) หรืออาจกล่าวได้ว่า ความหมายของคำใดๆ ไม่ใช่นิยามตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับ "เกมภาษา" (language game = รูปแบบของชีวิต/สิ่งที่มนุษย์กระทำ) ที่คำนั้นปรากฏอยู่ ตัวอย่างของเกมภาษาในชีวิตประจำวัน ก็เช่น บทสนทนา การเชิญชวน หรือ การดึงดูดใจ สำหรับบริบททางบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์นั้น เกมภาษา คือ การสืบค้นเอกสารสารสนเทศโดยใช้คำค้น-คำแทนเนื้อหา (subject)-หัวเรื่อง นั้นเอง ทฤษฎีสัญศาสตร์มีความน่าสนใจตรงที่เราสามารถนำเอาแนวคิดเชิงมนุษย์-สังคม (humanistic-socially-oriented) ของทฤษฎีนี้ มาเป็นหลักในการออกแบบระบบสารสนเทศได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น เพราะอันที่จริง เหตุผลหลายประการที่ผู้ใช้ไม่พึงพอใจต่อผลลัพธ์การค้นคืน และปรับปรุงระบบสารสนเทศได้ยากยิ่ง ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มาจาก "เกมภาษา" ทั้งสิ้น ขอยกตัวอย่างเกมภาษาที่เป็นปัญหาพื้นฐานในทางบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์มาประกอบครับ นั่นก็คือ การวิเคราะห์ความรู้ (การวิเคราะห์เนื้อหา) เพื่อตัดสินใจว่าเอกสารหนึ่งๆ มีเนื้อหาสาระจริงๆ เกี่ยวกับอะไรกันแน่ (aboutness) ซึ่งการวิเคราะห์นี้เราใช้กับการให้เลขหมู่ กำหนดคำค้น และการทำดรรชนี ในระบบค้นคืนอย่างที่เรารู้จักกันดีนั้นแหละครับ ปกติแล้ว ในการพิจารณาเนื้อหาสาระของเอกสารจะมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี ได้แก่ 1. วิเคราะห์เนื้อหาของเอกสารโดยยึดตามระบบการทำดรรชนี (ศัพท์สัมพันธ์ ธิซอรัส หรือระบบการจัดหมวดหมู่) 2. วิเคราะห์เนื้อหาโดยผ่านมุมมองของผู้เขียน-เจ้าของผลงาน 3. วิเคราะห์เนื้อหาโดยผ่านมุมมองของผู้ใช้สารสนเทศ ไม่ว่าเราจะเลือกใช้วิธีใดในสามวิธีนี้ ป้ญหาหลักในการสืบค้นเนื้อหาก็คือ นักทำดรรชนีกับผู้ใช้/ผู้ค้นหาสารสนเทศ "ไม่ได้อยู่ในเกมภาษาเดียวกัน" เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน-การศึกษา และสังคม ของคนทั้งสองกลุ่มนี้มีความแตกต่างกัน ดังนั้น "การใช้คำ" เพื่อทำดรรชนี หรือค้นหาสารสนเทศ ก็ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างไม่ต้องสงสัย ใจความสำคัญของแนวคิดสัญศาสตร์ไซเบอร์ในสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ที่เสนอโดย ศ.ดร.ซอเรน ไบรเยอร์ นั้น จะเน้นไปที่เกมภาษาที่แตกต่างกันในกระบวนการค้นคืนสารสนเทศของระบบสื่อสารเอกสาร ความท้าทายอย่างยิ่งยวดที่นักวิจัย/นักวิชาการในสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ต้องเผชิญนั้น แท้จริงแล้วเป็นปัญหาทางเทคนิคน้อยมาก แต่ปัญหาอันเกิดจากการแปลความหมายของคำทั้งในเชิงสังคมและภาษาที่แตกต่างเป็นอย่างมากต่างหาก ที่ก่อให้เกิดอุปสรรคในการสื่อสารทั้งภายในและระหว่างประเภทของเกมภาษา ผู้ใช้สารสนเทศมีเกมภาษาของตนเอง แต่ก็ต้องจัดการกับเอกสารที่มีเกมภาษากำหนดโดยผู้เขียน-เจ้าของผลงาน ตามมาด้วยการที่จะต้องเรียนรู้เกมภาษาของระบบการจัดหมวดหมู่ และศัพท์ดรรชนีที่กำหนดโดยนักทำดรรชนี (นักเอกสารสนเทศ) จากนั้นก็จะต้องสืบค้นสารสนเทศด้วยเกมภาษาที่ถูกกำหนดเอาไว้ใน "ภาษาเพื่อการสืบค้น" (search language) ในระบบสารสนเทศ อีกเป็นลำดับสุดท้าย ถ้าผู้่ใช้สารสนเทศไปปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากบรรณารักษ์หรือนักสารสนเทศ ปัญหานี้ก็จะถูกตีความต่อไปอีกทอดนึง ด้วยเกมภาษาของผู้ทำหน้าที่ตัวกลางระหว่างสารสนเทศกับผู้ใช้ (mediator) วนเป็นลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ แนวคิดสัญศาสตร์ไซเบอร์เป็นจุดเริ่มต้นของการวิจัยเพื่อค้นคว้าหาวิธีการที่เหมาะสมในการบูรณาการความสามารถของคอมพิวเตอร์เครื่องจักรสมองกล กับทักษะของมนุษย์ (ทักษะของบรรณารักษ์ที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงเกมภาษาที่แตกต่างกันไปตามจำนวนผู้ใช้และปริมาณของเอกสารที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกปีๆ) อย่างมีผลิตภาพ ศ.ดร.ซอเรน ไบรเยอร์ ชี้ว่า ความจำเป็นเชิงเศรษฐกิจ (เช่น ต้นทุน ความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ ฯลฯ) ในการนำเครื่องจักรสมองกลมาจัดการ-ค้นคืนสารสนเทศ ไม่ควรที่จะมาบดบังข้อเท็จจริงที่เป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดในสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ซึ่งก็คือ การออกแบบและพัฒนาส่วนต่อประสานผู้ใช้ที่ผสมผสานอย่างสมดุลระหว่างการประมวลผลเชิงภาษา-สังคม (socio-pragmatic linguistic) ในฐานะพาหนะเชิงสัญลักษณ์ (sign vehicles) กับการประมวลผลเชิงตรรกะหรืออัลกอริธึ่ม (logic or algorithmic processing) ที่แสดงผลลัพธ์ผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ขอบเขตการวิจัยหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักวิชาการด้านบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ก็คือ ทำอย่างไรจึงจะบูรณาการฐานข้อมูลบรรณานุกรมและฐานข้อมูลที่มีเนื้อหาฉบับเต็ม ให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืนกับโดเมน (สาขาวิชา) ต่างๆ องค์กรทุกภาคส่วน ความสนใจที่หลากหลาย และระดับของการจัดระบบสารสนเทศที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพอย่าง่การวิเคราะห์วาทกรรมและบทสนทนา (discourse and conversation analysis) รวมถึงการวิเคราะห์หลักฐานเชิงประจักษ์ตามแนวทางภาษาศาสตร์ชาติพันธุ์-สังคม (ocio- and ethnolinguistic) ของสาขาวิชาการสื่อสารทางวัฒนธรรม น่าจะเป็นวิธีวิจัยที่นักวิชาการและวิชาชีพบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์สามารถนำมาปรับใช้ควบคู่ไปกับวิธีการวิจัยที่เคยใช้อยู่แต่เดิม ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ------------------- รายการอ้างอิง Peirce, C.S. (1994 [1866-1913]): The Collected Papers of Charles Sanders Peirce. Electronic edition reproducing Vols. I-VI ed. Charles Hartshorne & Paul Weiss (Cambridge: Harvard University Press, 1931-1935), Vols. VII-VIII ed. Arthur W. Burks (same publisher, 1958). Charlottesville: Intelex Corporation.
0 Comments
ห้องทดลองนวัตกรรมห้องสมุด แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
|
Archives
December 2015
Categories
All
|