![]() พื้นฐานเมทาดาทาที่จำเป็นต่อนักการตลาดเนื้อหา http://contentmarketinginstitute.com/2015/10/metadata-questions-content-marketers/ เมทาดาทาหรืออภิข้อมูล คือ สารสนเทศที่แสดงบริบทและความหมายเกี่ยวกับเนื้อหาดิจิทัล 1. เมทาดาทาเผยให้เห็นความเชื่อมโยงภายในเนื้อหาต่างๆ ที่เราสร้างสรรค์และนำเสนอ 2. หมวดหมู่และแท็ก (Categories and tags) ที่มักพบบนบล็อก เช่น หัวข้อ ประเภทของเนื้อหา รูปแบบของสื่อ เป็นชนิดของเมทาดาทาที่ปรากฏอยู่ทั่วไป แต่ยังมีเมทาดาทาอีกหลายชนิดที่รอให้เรานำไปใช้งาน 3. ไม่มีสูตรสำเร็จว่าควรใส่เมทาดาทาลงในเนื้อหาดิจิทัลจำนวนเท่าไรจึงจะดี แต่ต้องไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป 4. เว็บไซต์ Amazon เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับการนำเมทาดาทามาใช้ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า หรือผู้เยี่ยมชมไซต์ อาทิ หมวดหมู่ ตัวกรองช่วยค้นหา การแนะนำสินค้าที่ลูกค้าอื่นซื้อในหมวดเดียวกัน ข้อมูลสินค้าใหม่ที่สอดคล้องกับของที่ลูกค้าเคยซื้อก่อนหน้านี้ 5. การสร้างเมทาดาทาเป็นงานที่ต้องทำกันเป็นทีม 6. การหาจุดร่วมกัน (Consensus) ของทีมงานในการออกแบบ สร้าง และบันทึกเมทาดาทาเป็นงานที่ท้าทายที่สุด 7. หากต้องย้อนกลับไปใส่เมทาดาทาให้กับเนื้อหาดิจิทัลทั้งหมดที่เคยทำมา ควรพิจารณาใช้บริการจากภายนอก ระบบระบุเมทาดาทาอัตโนมัติ หรือแม้แต่ชักชวนลูกค้าให้มากำหนดเมทาดาทาร่วมกัน 8. เมทาดาทามีวิวัฒนาการต่อเนื่อง แผนพัฒนาเมทาดาทาต้องสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่าย 9. หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับเมทาดาทา อย่าลืมนึกถึง "บรรณารักษ์" ที่รับผิดชอบเนื้อหาดิจิทัล ผมว่าข้อสุดท้ายนี่ล่ะ โดนใจที่สุด นี่คือเหตุผลว่าทำไมบริษัทรับทำการตลาดเนื้อหาดิจิทัลจึงจำเป็นต้องว่าจ้างบรรณารักษ์เพื่อมาช่วยดูแลและส่งเสริมการใช้เมทาดาทาเชิงกลยุทธ์
0 Comments
การทำบัตรรายการชุดสุดท้ายสำหรับห้องสมุดในสหรัฐอเมริกา
http://www.neatorama.com/2015/10/03/The-Last-Library-Card-Catalog-Cards/ ห้องสมุด Concordia College ใน Bronxville นิวยอร์ก สั่งทำบัตรรายการกระดาษชุดสุดท้าย เพื่อไว้เป็นข้อมูลสำรองกรณีฐานข้อมูลออนไลน์ใช้งานไม่ได้ ก่อนที่บริการจัดทำบัตรรายการแบบนี้จะปิดตัวลงอย่างถาวร หนึ่งในบัตรกระดาษชุดสุดท้ายนั้น คือ รายการหนังสือ Disney’s Sleeping Beauty และรายการดีวีดีภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games: Catching Fire ![]() จากกระแสการแบนภาพยนตร์เรื่อง "อาปัติ" และข้อถกเถียงเรื่องเสรีภาพในการเสพผลงานสร้างสรรค์ ทำให้ผมนึกถึงการนำเสนออินโฟกราฟิก 9 ภาพ ที่เกี่ยวข้องกับหนังสือชื่อดังที่ถูกระงับการเผยแพร่และห้ามอ่านทั่วโลก http://ebookfriendly.com/banned-books-infographics/ โดยเฉพาะภาพที่ 2 และ 3 ห้ามพลาดนะครับ ผมว่า http://www.lovereading.co.uk/ ทำอินโฟกราฟิกออกมา นอกจากความสวยงามแล้ว ตัวข้อมูลสารสนเทศที่สรุปออกมายังมีความชัดเจนและดึงดูดใจให้ผู้อ่านค้นคว้าเพิ่มเติมได้ด้วย รายการหนังสือถูกแบนในอินโฟกราฟิกภาพที่ 2 และ 3 แต่ละรายการให้ข้อมูล 1) ภาพประกอบ ภาพหน้าปก 2) ชื่อหนังสือ 3) ชื่อผู้เขียน 4) ปีที่เผยแพร่ครั้งแรก 5) แนวเรื่อง 6) เนื้่อหาย่อ 7) เหตุผลที่ถูกแบน 8) ประเทศที่สั่งแบน 9) ระยะเวลาที่ถูกแบน 10) เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอื่นๆ และที่ขาดไม่ได้คือ "รายการอ้างอิง" ครับ ว่ารายการหนังสือทั้งหมดนั้น คัดเลือกมาจากแหล่งใดบ้าง _ แม้บ้านเราไม่มีสัปดาห์หนังสือต้องห้าม (http://www.ala.org/bbooks/bannedbooksweek) แต่รูปแบบการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือผ่านอินโฟกราฟิกของ http://www.lovereading.co.uk/ ก็น่าสนใจและเอาไปปรับใช้กับการแนะนำหนังสือในห้องสมุดได้ไม่มากก็น้อย ![]() การออกแบบประสบการณ์ความสุขแก่ผู้ใช้ห้องสมุด http://lj.libraryjournal.com/2015/10/managing-libraries/life-library-and-the-pursuit-of-happiness/ Steven Bell เขียนบทความลงใน Library Journal เมื่อ 7 ต.ค. 2558 นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการออกแบบประสบการณ์ห้องสมุดแบบองค์รวม (Totality) ที่สมาชิกชุมชนสามารถสัมผัสได้เมื่อมาใช้บริการห้องสมุด ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างแบรนด์ให้เป็น "ห้องสมุดแห่งความสุข" ของผู้รับบริการอย่างแท้จริง โดยประสบการณ์ดังกล่าวมิใช่แค่เพียงการศึกษาความสามารถในการใช้งาน (Usability) ของเว็บไซต์ หรือการประเมินความพึงพอใจ เท่านั้น Steven Bell ยังชี้แนะว่า เราอาจนำมุมมองของการออกแบบผลิตภัณฑ์มาใช้ในการออกแบบประสบการณ์ห้องสมุดได้ด้วย เพราะประสบการณ์ก็คือผลิตภัณฑ์ประเภทหนึ่งนั่นเอง คำถามต่อมาคือ แล้วอะไรกันแน่ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของห้องสมุด ตามความคิดเห็นของผู้เขียนบทความนั้น ผลิตภัณฑ์มิใช่หนังสือ เนื้อหาของสารสนเทศ เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งอาคารสถานที่ แต่มันคือผู้คน บุคลากรห้องสมุด และทุกสิ่งอย่างที่พวกเขาทำทุกๆ วัน เพื่อสร้างสรรค์ความสุขแก่ชุมชนที่ห้องสมุดให้บริการอยู่ บุคลากรในห้องสมุดจึงมีศักยภาพสูงในการสร้างสรรค์ประสบการณ์สำหรับผู้ใช้ ขึ้นเองมาเองได้ โดยมิต้องไปเสาะหาผลิตภัณฑ์ใดๆ จากที่อื่นๆ อีก 10 สิ่งที่ฉันไม่ได้เรียนรู้จากโรงเรียนบรรณารักษศาสตร์ ฉบับห้องสมุดมหาวิทยาลัย (ในอเมริกา) โดย เจสสิกา โบลิน เจ้าของบล็อกจดหมายถึงบรรณารักษ์มือใหม่
|
Archives
December 2015
Categories
All
|