![]() องค์ประกอบที่ปรากฏบนแผนที่ Lankes, R. David. The Atlas of New Librarianship. Cambridge: The MIT Press, 2011. Interestingly, this guide book represents key concepts of new librarianship that fit the changing landscape of library and information practitioners perfectly. Its visual presentation in form of a map helps readers can navigate complex foundations of library practices in the American context. It is one of great books in the field of library profession that you can not miss. ผลงานเขียนของ Associate Professor R. David Lankes แห่ง Syracuse University's School of information Studies เล่มนี้ ได้รับรางวัลหนังสือยอดเยี่ยม ABC-CLIO/Greenwood Award ในสาขาวรรณกรรมห้องสมุด เมื่อปี 2012 จากสมาคมห้องสมุดอเมริกัน (http://www.ala.org/news/pr?id=9509) ผู้อ่านหลายคนคงอาจเคยอ่านงานเขียนในเนื้อหาเกี่ยวกับสถานภาพ แนวโน้ม และภาพลักษณ์ของวิชาชีพบรรณารักษ์กันไม่มากก็น้อยนะครับ แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้ ผมขอใช้คำว่า "พลิกโฉม" เพราะ R. David Lankes ได้นำเสนอบทบาท/หนัาที่ ความรับผิดชอบอันน่าภาคภูมิใจของวิชาชีพบรรณารักษ์ ที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในสังคมสมัยใหม่ ที่สภาพแวดล้อมทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี (ในบริบทแบบอเมริกัน แต่นอนมันก็อาจจะเข้ากันได้กับบริบทแบบไทยได้เช่นกัน เพราะเดี๋ยวนี้โลกแคบเนื่องจากความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร และถ่ายโอนข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต) ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อ "การดำรงอยู่" ของวิชาชีพบรรณารักษ์ ก่อนจะว่าด้วยเรื่องเนื้อหาของหนังสือ ในตอนที่ 1 นี้ ผมขอบอกเล่ารูปแบบการนำเสนอเนื้อหาของ R. David Lankes ทีแตกต่างจากหนังสือในหมวดเดียวกันเล่มอื่น นั่นคือผู้แต่งหนังสือได้ร้อยเรียงเรื่องราวของความเป็นวิชาชีพในลักษณะของการนำทางผู้อ่านจากเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง (เพราะมันสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน) ด้วยสมุดแผนที่ (Atlas) แล้วจากนั้นจึงค่อยๆ ขยายความใจความหลักที่ผู้เขียนต้องการจะนำเสนอแนวคิดต่อผู้อ่านที่อยู่ในวิชาชีพบรรณารักษ์ นั่นก็คือ "พันธกิจของบรรณารักษ์ (สมัยใหม่) คือการทำสังคมให้ดีขึ้น ด้วยการเอื้ออำนวย ให้เกิดการสร้างสรรค์ความรู้ ให้เกิดขึ้นภายในชุมชนที่บรรณารักษ์ให้บริการอยู่" (The mission of librarians is to improve society through facilitating knowledge creation in their communities) ดังนั้น รายละเอียดในหนังสือจึงร้อยเรียงโดยผูกทั้ง 6 แนวคิดเข้ามาไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนไล่ไปตั้งแต่ 1) พันธกิจ 2) การสร้างสรรค์ความรู้ 3) การเอื้ออำนวย 4) ชุมชน 5) การทำสังคมให้ดีขึ้น และปิดท้ายด้วย 6) ตัวบรรณารักษ์เอง ด้วยปริมาณของเนื้อหาในแต่ละแนวคิดมีจำนวนค่อนข้างมาก ซับซ้อน และเกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน จึงทำให้เนื้อหาของหนังสือค่อนข้างที่จะกลับไปกลับมา ค่อนข้างยากที่จะอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนไปถึงหน้าสุดท้ายได้ บ่อยครั้งทีเดียวที่ผมเองก็ต้องพลิกกลับไปอ่านหน้านู้นที หน้านั้นที ทำให้ไม่สามารถอ่านได้อย่างต่อเนื่องเหมือนที่เคยชินมา เพื่อช่วยผู้อ่านให้สามารถเข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น R. David Lankes จึงได้อธิบายองค์ประกอบที่ปรากฏอยู่ภายใน "สมุดแผนที่ของวิชาชีพบรรณารักษ์สมัยใหม่" จำนวน 6 องค์ประกอบ ดังนี้ Agreement = ข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขอบเขตของวิชาชีพบรรณารักษ์ เช่น ลักษณะของทักษะวิชาชีพ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติงาน ตัวอย่าง ฯลฯ Relationships = ความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยง "ข้อตกลงร่วม" เอาไว้ด้วยกันภายใต้บริบทใดบริบทหนึ่ง Threads = การบอกเล่าเรื่องราวของแนวคิดหลัก ( พันธกิจ การสร้างสรรค์ความรู้ การเอื้ออำนวย ชุมชน การทำสังคมให้ดีขึ้น และตัวบรรณารักษ์) ที่อธิบายในสมุดแผนที่ Map = การนำเสนอในรูปแบบทัศนศิลป์ที่ทำหน้าที่คล้ายดรรชนี (เส้นรุ้ง เส้นแวง ที่กำหนดพิกัดของสมุดแผนที่) ในการนำผู้อ่านให้สามารถค้นพบและนำทางไปสู่ความเข้าใจในสาขาวิชาชีพบรรณารักษ์ได้ Atlas = ภาพรวมทั้งหมดของหนังสือ The Atlas of New Librarianship สำหรับตอนที่ 2 ในบทแนะนำหนังสือเล่มนี้ ผมจะได้สรุปเนื้อหาที่น่าสนใจจากผลงานของ R. David Lankes มาให้อ่านกันต่อครับ โปรดติดตาม
1 Comment
3/9/2013 14:23:52
Took the day off and was just reading up some blogs and thought I would post here
Reply
Leave a Reply. |
Archives
October 2015
Categories
All
|